ลูกสะกดดีทางมหาอุดและคงกระพันชาตรี
ในตำรับตำราเครื่องรางของขลังไทยเรานั้นจะมีด้วยกันหลายอย่าง
ๆ ที่เป็นเครื่องคาดก็จะมีตะกรุด เป็นหลัก หากไม่ใช่มหาอุดแล้วละก้อ
เมื่อร้อยเข้าพวงเพื่อคาดเอวแล้ว จะต้องหาอะไรมาบังคับเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนที่ไปมาวิธีที่ง่ายที่สุดคือ
ด้วยการแก้เชือกให้เป็นปมใหญ่พอที่จะทำให้ตะกรุดไม่เคลื่อนที่แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งก็คือ
การทำลูกสะกด
และเป็นอย่างไรนั้นผู้เขียนจะอธิบายให้ท่านผู้อ่านได้ทราบอย่างละเอียดเลยทีเดียวในเรื่องนี้
ก่อนอื่นจะต้องพูดถึงความแตกต่างกันระหว่างลูกสะกดกับลูกอมซึ่งเป็นเครื่องรางทั้งสองอย่างนี้และพอที่จะแยกกันได้คร่าว
ๆ ดังนี้
· ลูกอม หมายถึงการนำเอาวัสดุต่าง ๆ
ที่เหมาะสมอาทิเช่น ผงผสมตังอิ๊ว ดินเผา ผงว่านยากาฝาก บอระเพ็ด ขี้ผึ้งเทียนชัย
น้ำตาเทียนเทียนชัย โลหะต่าง ๆ แต่ละอย่างเอามาตีแผ่นให้เป็นแผ่นแล้วเข้าพิธีลงเลขยันต์อักขระเวทย์มนตร์
คาถา ประจุลงเสร็จแล้วเอาไปเข้าพิธีหล่อหลอมให้ละลายเข้ากัน
ซัดว่านยาแล้วเทลงไปในเบ้ากลมตามขนาดที่ต้องการเมื่อเอาออกจากเบ้าแล้วก็ต้องขัดแต่งให้กลมเกลี้ยงเรียบร้อย
แล้วปลุกเสกผูกเป็นการเสร็จพิธีซึ่งพิธีที่ทำนั้น
เป็นขั้นตอนและพิถีพิถันมากทีเดียว (ยกเว้นตะกรุดลูกอมที่มีรูตรงกลางอันเกิดจากการม้วนโลหะ)วัตถุประสงค์ในการใช้ก็คือการอมไว้ในปากเพื่อป้องกันตัว
· ลูกสะกด เป็นคำนามมีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานว่า
ลูกประคำที่ใช้เป็นลูกคั่น
มีสันฐานกลมเกลี้ยงและถ้าพูดถึงขนาดนั้นจะใหญ่กว่าหรือเท่ากับลูกอมแต่มีการเจาะรูตรงกลางเพื่อร้อยเชือกแล้วประกบหัวท้ายตระกรุดไม่ให้เคลื่อนที่หรือจะไม่เจาะรูก็ย่อมได้ไม่ผิดกติกาอันใด
คราวนี้ผู้เขียนจะมาพูดถึงความหมายอีกอย่างหนึ่งของลูกสะกดตรงตัวที่คำว่า
“สะกด” ซึ่งหมายถึงการข่มหรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เคลิบเคลิ้มอยู่ภายใต้อำนาจส่วนคำว่า
“ลูกสะกด” ในความหมายที่นี้หมายถึง ก้อนกรวดก้อนเล็ก
ๆ ลูกอม ลูกกระสุนดินเผาหรือวัสดุอย่างอื่นที่นำมาเสกเป่าภาวนาด้วยคาถามหานิทรา
แล้วขว้างข้ามหลังคาบ้านหลังคาค่าย ทำให้คนในบ้านในค่ายแม้แต่สัตว์ที่มีอยู่ในสถานที่นั้นจะหลับไหลไม่ได้สติจนกว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นมาในตอนเช้า การสร้างลูกสะกดนั้น
ไม่ใช่จะทำกันได้ง่าย ๆ ซึ่งจะต้องผ่ากรรมวิธีหลายขั้นตอน
ในที่นี้จะกล่างถึงการทำลูกสะกดตะกั่วแบบง่าย ๆ
ที่โบราณาจารย์ท่านนิยมกระทำกันมีหลักการดังต่อไปนี้
1. เอาตะกั่วนมมาหลอมจนละลาย แล้วเทลงไปบนถาดโลหะเพื่อให้แผ่เป็นแผ่นเมื่อโลหะเย็นลงแล้วก็แกะออกมา
2. เอาเหล็กจารมาลงอักขระหัวใจพระคาถาต่าง ๆ
เรียกสูตรไปเขียนไปจนเต็มแผ่นหมดด้านหนึ่งแล้วพลิกอีกด้านหนึ่งมา จารจนเต็ม
3.
เอาตะกั่วอันเดิมไปหลอมอีกแล้วเทลงในแบบพิมพ์เดิม เมื่อเย็นก็เอามาลงอักขระอีกครั้งหนึ่งแล้วก็หลอมอีก
ทำอย่างนั้นไปเก้าครั้งเก้าหนจึงจะมาขั้นสุดท้ายกรรมวิธีนี้เรียกว่าลงถมหรือการจารอักขระทับถมไปบนแผ่นโลหะ
หากได้แบบที่เหมาะ ๆ
เป็นรูปกลมหรือรูปยาวรีหลอมตะกั่วแล้วเทลงบนแบบ เมื่อเย็นแล้วแกะออกมาและตกแต่งผิวให้เรียบร้อยพร้อมเจาะรูตรงกลางจึงจารอักขระซ้ำลงไปเป็นหัวใจ
จึงร้อยเชือกประกันกับตะกรุด หรือร้อยเชือกเอาไว้ให้คาดเอวเรียกว่า
“ลูกสะกด” หากไม่เจาะรูก็ใช้เป็นลูกอม
จะอมในปากก็ได้เช่นกัน ลูกสะกดนี้นอกจากจะทำด้วยตะกั่วแล้วยังทำด้วยการผสมโลหะต่าง
ๆ อาทิเช่น สัตโลหะ ปัญจโลหะ
เมฆพัตร เมฆสิทธิ์ นวโลหะและเหล็กละลายตัว
หรือแล้วแต่ท่านโบราณจารย์ผู้ชาญฉลาดจะประดิษฐ์คิดแต่ทำกัน
ขึ้นมาอาจจะเป็นวัตถุมงคล หรืออาถรรพณ์ต่าง ๆ
ที่นำเอามาเป็นส่วนผสมพร้อมกับลงอักขระเลขยันต์จนเห็นว่าดีแล้วนั่นเองจึงเอามาทำเป็นลูกสะกด
ลูกสะกดนี้หากไม่ได้ใช้สะกดหัวตะกรุด จะเอามาร้อยพวงรวมกันก้ได้ไม่เสียหายแต่อย่างใด หรือหากจะเอาไปอมในปากเป็นลูกอมก็ไม่ติดขัดแต่ประการใดใช้ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นของสำเร็จที่สร้างขึ้นให้ใช้ป้องกันตัว ยกเว้นลูกสะกดกับปรอทเป็นสารมีพิษต่อร่างกาย บางคนแพ้อาจจะทำให้เยื่อบุในปากและเหงือกตลอดจนคออักเสบ ลุกลามไปกันใหญ่ และอย่าลืมว่าเป็นอันตรายต่อร่างกาย ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงลูกสะกดในการสะกดคนในบ้านให้หลับด้วยการโยนข้ามหลังคา เพราะเป็นวิชาโจร ซึ่งเป็นวิชาอันตรายต่อคนทั่วไป ดังนั้นสมัยโบราณทีสอนกันเขาก็ให้มีสัจจะว่า “เมื่อผ้าขาดก้นเมื่อใดก็ให้ทำครั้งหนึ่งเอาพอได้ค่าเสื้อผ้าค่าเลี้ยงดูครอบครัวและบริวารก็ให้เลิก” เรียกว่าปีหนึ่งทำครั้งเดียวและต้องเลือกเฉพาะผู้ที่มีฐานะดีเท่านั้นจึงจะควร ถ้าผิดสัจจะพระอาจารย์ท่านเมื่อใดก็ตายลูกเดียว ทีนี้มาทำความรู้จักกับลูกสะกดของพระอาจารย์ท่านกันบ้าง เป็นลำดับดังนี้
ลูกสะกดที่มีชื่อเสียงเป็นที่โจษจรรย์กันมากก็คือ ลูกสะกดวัดพระแก้ว
(วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม.)
ลูกสะกดที่ว่านี้ทำด้วยชินผสมตะกั่ว
กล่อมเป็นรูปยาวรีเจาะรูผ่านตลอด
ลูกสะกดพระอาจารย์ทับ
แห่งวัดอนงคารามลักษณะกล่อมกลมหรือยาวรี หรืออาจมีสัณฐานต่างออกไปบ้างลูกสะกดของพระอาจารย์ทับมักไม่ค่อยจะเจาะรูตลอด
เพราะท่านสร้างด้วยเนื้อเมฆสิทธิ์จึงยากต่อการเจาะ เพราะเนื้อชนิดนี้เปราะและแตกสลายง่าย
ลูกสะกด
ที่ได้รับความนิยมเล่นหากันเป็นอย่างมากอีกอาจารย์ท่านหนึ่งก็คือ ลูกสะกดของหลวงปู่เนียมวัดน้อย
จังหวัดสุพรรณบุรี ลูกสะกดของอาจารย์ท่านนี้กล่อมเป็นลูกกลม
ๆ มีทั้งที่ทำด้วยเนื้อตะกั่วผสมชินและเนื้อเมฆพัด
แต่มีที่สังเกตอยู่หน่อยก็ตรงที่เป็นรูสะดืออยู่ที่พอเป็นที่สังเกต
ลูกสะกดของหลวงปู่ศุข
วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาทก็มีอยู่เหมือนกันครับ
แต่ของท่านมักจะสร้างด้วยไม้หัวรอด หัวกลอน
ท่านอาจจะเอาเคล็ดของคำว่า “รอด”
และหนักแน่นเหมือน “กลอน” (ที่ใช้ขัดประตู)
แต่ทางจังหวัดชัยนาท มักนิยมเรียก “ลูกเครื่อง”
ลูกสะกด อีกชนิดหนึ่งของหลวงปู่จันทร์ วัดใหม่โมลีโลก
จังหวัดนนทบุรี ที่สร้างจากวัสดุอาถรรพณ์คือแร่บางไผ่
และ (เป็นผู้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่อันลือชื่อ)
มีลักษณะกลมหรือรีสามารถติดแม่เหล็กได้และจะพิจารณาดูง่าย ๆ คือ
สนิมจะเปียกเหมือนยางหมากเป็นแผ่น ไม่เป็นขุยหรือเป็นเกล็ดเล็ก
ๆ และสนิมไม่แห้งผากเหมือนสนิมเหล็กธรรมดาทั้วไป ถ้าเนื้อเป็นเสี้ยนหรือเป็นเสี้ยนเล็ก
ๆ ปรากฎอยู่อย่างนั้น ท่านว่าดูง่ายมาก แต่เนื้อแร่ไผ่แท้อาจจจะไม่เป็นเสื้ยนก็ได้
ซึ่งเนื้อชนิดนั้นเรียกกันว่า “เนื้อแตง”
(แตงโม) และที่สำคัญก็คือ
สำคัญก็คือ
สนิมแร่บางไผ่จะต้องเปียกฉ่ำและเป็นแผ่นไม่เป็นขุย
ยังมีลูกสะกดบางอย่างที่นิยมเอาทองชนวนที่เหลือจากการเทพระกริ่งหรือพระชัยวัฒน์มากล่อมทำเป็นลูกสะกด
เพราะทองชนวนเหล่านั้นได้ผสมจากวัสดุอาถรรพณ์และวัสดุมงคลต่าง ๆ
กับได้ผ่านการลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกมาอย่างดีแล้วเรียกว่า “เป็นของทนสิทธิ์”
คือมีดีอยู่ในตัวแล้วนั่นเอง เมื่อนำเอามากล่อมทำลูกสะกดก็ย่อมจะใช้เป็นเครื่องรางของขลังได้ดีอย่างหนึ่งเหมือนกัน อานุภาพแห่งลูกสะกดนั้นพระอาจารย์ท่านทั้งหลายได้มุ่งหมายให้ใช้ทางมหาอุดและคงกระพันชาตรีด้วย
สำเร็จขึ้นจากการหล่อหลอมโลหะและเตโชธาตุหรือแม้จะทำด้วยผงหรือว่านนั้นก็ดี
เมื่อท่านได้รู้จักสะกดกันแล้วก็จะขอบอกเคล็ดลับการใช้ลูกสะกดเพื่อให้สมบูรณ์
ท่านจะได้นำไปใช้กันได้ ถูกต้องดังนั้นจะมีคาถาอาราธนาลูกสะกดดังนี้
คาถาอาราธนาลูกสะกด
อิติพันธะเกษามะอะอุ
พันธะโลมาจะภะกะสะพันธะนักขามะนะนพะทะ พันธะทันตากระมะถะ
พันธะตะ โจอิสวาสุ พันธะนังสังจิปีเสดิ พันธนะหะรูหะรูสุวิสังอะ
พันธะอัฐิทุสะมะนิ พันธะอัตถิมินชังนะสังสิโม
พันธะวักกังปะวะอะปะ
ทิมะสังอังขุ
นะมะอะอุ นะมามิหัง สิทธิเตชัง
สิทธิวาจัง กายะพันธะนัง องคะพันนธะนัง
สารพัดสิทธิ ภะวันตุเมฯ
คาถานี้ให้ตั้งนะโมฯ
3 จบก่อนแล้วยกลูกสะกดขึ้นจดเหนือหน้าผาก จึงค่อยภาวนาพระคาถาให้จบบท
สูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วผ่อนออก และเมื่อเวลาจะคาดเข้าเอวให้ภาวะนาพระคาถานี้จนกว่าจะผูกเงื่อนเสร็จให้ภาวนาดังนี้
“อิมังกะยะพันธะนังอธิษฐานมินะมะพะทะ”
มีอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรลืม
มีอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรลืม เวลาคาดเอวให้ผูกเงื่อนพิรอด
อย่าไปผูกเงื่อนตายเข้าแล้วกันเพราะเงื่อนพิรอดนั้นเป็นมงคลแถมยังแก้ง่ายด้วย
ส่วนเงื่อนตายไม่เป็นมงคลแล้วยังแก้ยากอีกด้วย
คงจะเห็นแล้วว่าลูกสะกดมีคุณค่าเพราะเป็นของศักดิ์สิทธิ์และสร้างได้ยากเย็นและต้องใช้ความพยายามอย่างสูง
ดังนั้นท่านผู้อ่านควรรีบขวนขวายหาเอาไว้เสียเพราะต่อไปจะหาได้ยาก
***สามารถติดตามผมและอ.เอกธนกรได้ที่....
โทร. 091-0365890,083-6872891,094-465-0029,085-4991499
เบอร์ติดต่อ ดูดวง24 ชั่วโมงกับอ.เอก ธนกร โทร.1900-888-448
หรือ www.horopu108.com
***สามารถติดตามแฟนเพจอ.เอกและอ.อิฐที่....
http://www.facebook.com/page.pu108
และ http://www.facebook.com/itpu108
IG : teeyai14 , IG: itpu108
Blog :
http://teeyai6646.blogspot.com , http://itpu108.blogspot.com
***ประกาศอ.เอก ธนกร
เปิดสอนวาโหราศาสตร์แล ะไสยศาสตร์ เรียนผ่านSMSเพียงเดือนละ 55บาท ส่ง8ข้อความต่อเดือน
***ถ้าอยากรู้คาถาอาคม
ผ่านSMSกดที่ *484781306 แล้วโทรออก...
***ทางทีวี
ติดตามได้ที่ช่องMystery Channel PSI รายการสัมผัสที่6 ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา17:30-18:30น.
ช่อง UMM TV เวลา 10:00-11:30 และ เวลา 14:00-15:30 ทุกวันพุธ
ช่อง R channel เวลา 14:30-15:30 ทุกวันจันทร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น